กล้องวงจรปิด หรือ CCTV (Closed-circuit television) กลายเป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ขาดไม่ได้ในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย สำนักงาน หรือธุรกิจต่างๆ การเลือกซื้อกล้องวงจรปิดที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ได้ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด: ช่วยจับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถนำหลักฐานไปแจ้งความหรือดำเนินคดีได้
เฝ้าระวังทรัพย์สิน: ช่วยป้องกันการโจรกรรม และตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่
เพิ่มความอุ่นใจ: ทำให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อรู้ว่ามีกล้องคอยเฝ้าดู
ตรวจสอบพฤติกรรม: สามารถใช้ตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลหรือพนักงานได้
แบบอะนาล็อก: เป็นรุ่นเก่า ภาพไม่คมชัด ต้องใช้สายสัญญาณในการเชื่อมต่อ
แบบดิจิทัล: ให้ภาพคมชัด มีความละเอียดสูง สามารถปรับตั้งค่าได้หลากหลาย
กล้อง IP: เป็นแบบที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถดูภาพผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ได้
กล้องไร้สาย: ส่วนใหญ่จะเป็นกล้องวงจรปิดแบบโซล่าเซลล์ที่ไม่ต้องเดินสายไฟ สะดวกในการติดตั้ง มีแบตเตอรี่ในตัว ข้อดีคือสามารถใช้งานได้แม้ไม่มีไฟฟ้า บันทึกเหตุการณ์สำคัญได้ 24ชั่วโมง
ความละเอียด: ยิ่งความละเอียดสูง ภาพก็จะยิ่งคมชัด เหมาะสำหรับการซูมภาพหรือดูรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
มุมมองการมองเห็น: เลือกมุมมองที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง เช่น มุมกว้าง มุมแคบ หรือเลนส์ซูม หรือกล้องที่สามารถหมุนได้บางรุ่นก็สามารถหมุนได้ถึง 360 องศา
เซ็นเซอร์รับภาพ: เซ็นเซอร์ CMOS ให้ภาพที่คมชัดกว่าเซ็นเซอร์ CCD
อินฟราเรด: สำหรับการมองเห็นในที่มืด และในบางรุ่นจะมีฟังชั่น Full Color Night Vision คมชัด สีตรง แม้จะแสงน้อย
การบันทึก: เลือกวิธีการบันทึกที่เหมาะสม เช่น บันทึกในตัวเครื่อง บันทึกในฮาร์ดดิสก์ หรือบันทึกบนคลาวด์ Cloud storage เป็นสิ่งที่สำคัญมากเมื่อกล้องวงจรปิดเราชัดแล้วแต่ไม่สามารถเก็บภาพหรือวิดีโอไว้ได้ก็ปล่าวประโยชน์ ทั้งนั้นเราควรเลือกกล้องวงจรปิดที่มี่ Cloud storage
WDR (Wide Dynamic Range): WDR เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญมากสำหรับกล้องวงจรปิด ช่วยให้ได้ภาพที่มีคุณภาพดี เห็นรายละเอียดได้ชัดเจน แม้ในสภาพแสงที่ย้อนแสงหรือมีแสงสว่างแตกต่างกันมาก
HDR (High Dynamic Range): เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ทำให้ภาพที่มีรายละเอียดสูงในส่วนที่สว่างและมืด
คุณสมบัติเพิ่มเติม: เช่น การตรวจจับความเคลื่อนไหว การส่งสัญญาณเตือน การเชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ
การเชื่อมต่อ: เป็นอีกส่วนที่สำคัญเลยถ้ามีตัวรับไม่ดีก็อาจะมีช่วงภาพที่ขาดหายหรือมีการกระตุก เราเลยจะแนะนำว่าควรใช้ Wi-Fi, Ethernet, 4G
แอปพลิเคชัน: สำคัญไม่แพ้ใครเลยเพราะถ้าเราอยู่ข้างนอกบ้านแล้วอยากดูว่าในบ้านมีเหตุการณ์อะไรบ้าง ตัวแอปพลิเคชั่นจากมือถือเนี่ยแหละที่จะช่วยให้เราดู หรือสนทนาได้อย่างง่ายดาย
การสนทนา: เดี่ยวนี้ในกล้องส่วนใหญ่จะมีฟังชั่นนี้ติดมาอยู่แล้ว ต้องลองเช็คก่อนซื้อให้ดีๆนะครับ จริงๆกล้องที่สามารถสนทนากันได้2ฝั่งก็แทบที่ไม่ต้องโทรไปหาคนที่บ้านให้เปลืองเงินเลย สามารถคุยกันผ่านตัวกล้องได้เลย ในบางรุ่นสามารถตัดเสียงรบกวนระหว่างการสนทนาและโพกัสเสียงพูดได้อีกด้วย
เทคโนโลยี AI ในกล้องรุ่นใหม่ๆจะเข้ามาช่วยในหลายๆอย่างเช่น ระบบตรวจจับเสียงผิดปกติ แก้วแตก, กระจกแตก และเสียงเด็กร้อง เมื่อกล้องตรวจพบจะแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ทันที ตรวจจับการเคลื่อนไหว ตรวจจับ และติดตามมนุษย์ เทคโนโลยี AI Area Detection วางพื้นที่การตรวจจับ เข้าปุ๊บ เตือนปั๊บ
เทคโนโลยี ONVIF เป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดยกลุ่มผู้ผลิต และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรมกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อเพิ่มระบบความปลอดภัย มาตรฐานนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันได้ (interoperability) ระหว่างอุปกรณ์จากผู้ผลิตต่างๆ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่หลากหลาย แต่ยังคงสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้ข้อจำกัด พูดง่าย ๆ ก็คือทำให้ตัวกล้องที่แบรนด์ต่างกันกับตัวเครื่องบันทึกสามารถจับคู่กันได้นั้นเอง
กำหนดจุดประสงค์: จะใช้กล้องวงจรปิดเพื่ออะไร เช่น รักษาความปลอดภัยในบ้าน ตรวจสอบพนักงานในร้านค้า
เลือกตำแหน่งติดตั้ง: พิจารณาว่าจะติดตั้งกล้องที่ตำแหน่งใดบ้าง เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ต้องการ
เลือกกล้องให้เหมาะสมกับพื้นที่: กล้องสำหรับภายนอกต้องทนทานต่อสภาพอากาศ กล้องสำหรับภายในต้องให้ภาพที่คมชัด
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่แน่ใจในการเลือกซื้อ คลิกมาสอบถามเราได้เลย
ทางร้าน imilabthailand เลยอยากจะแนะนำกล้องวงจรปิดทั้งแบบภายในและภายนอกที่น่าใช้
IMILAB EC6 Dual 3K
เป็นรุ่นล่าสุดที่ออกมา กล้องใช้เซ็นเซอร์ CMOS เจ้าตัวนี้มากับเลนส์2ตัวที่สามารถมอง2พื้นที่ได้ในเวลาเดียวกันกล้องทั้ง2ตัวเลนส์บนสามารถแพลนแบบ manual ทั้งซ้ายและขวา 120 องศา เลนส์ล่างแพลน auto ซ้ายขวา ได้ 360 องศา กล้องมีความละเอียดอยู่ที่3kทั้ง2เลนส์ให้ความคมชัดได้อย่างดี มีระบบ AI Detection ที่สามารถติดตามการเคลื่อนไหวและตรวจจับบุคคล ยานพาหนะ
Smart Deterrence เป็นการป้องกันการถูกบุกรุกและสามารถขับไล่ได้ โดยเสียงไซเรนสามารถปรับระดับได้ถึง 100 เดซิเบล สามารถเปิดไฟแฟลชไล่ได้อีกด้วย แถมเจ้าตัวนี้มี ONVIF ที่สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์จากผู้ผลิตรายอื่น อย่างเช่น NVR (Network Video Recorder) หรือซอฟต์แวร์การจัดการวิดีโอ ฟังชั่น Area Detection ที่สามารถตรวจจับในโซนที่กำหนดไว้ และแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ทันที ตัวเครื่องสามารถใส่ micro sd ได้สูงสุดถึง 256 gb
สามารถบันทึกบน Cloud Storage ฟรีถึง 3 เดือน มีมาตรฐานการกันน้ำ กันฝุ่น : IP66 สามารถป้อนกันฝุ่นและฝนตกหนักได้อย่างสบาย ตัวเครื่องมีการรับประกันถึง 2 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด โดยเป็นความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานที่ผิดประเภท
IMILAB EC6
เป็นตัวรองลงมาที่มีแค่ 1 เลนส์แต่ก็ยังให้ความคมชัดระดับ 3K เหมือนเดิม เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน มาพร้อมSmart Siren & Spotlights ส่งเสียงเตือน 100dB และไฟส่องสว่างช่วยให้ภาพชัดขึ้น สามารถอัดเสียงตัวเองเพื่อใช้แทนเสียงไซเรนได้ มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่นระดับ IP66 ที่อุณหภูมิ -30~60 ทนทุกสภาพอากาศ เชื่อมต่อแอปฯ Mi Home ใช้งานง่าย และเสถียรกว่า รองรับการทำงานกับ Amazon Alexa และ Google Assistant
กล้องรักษาความปลอดภัยแพลนได้ 360° และขึ้น-ลง 100° Color Night Vision ทำงานทันทีเมื่อแสงรอบข้างมืดลง หากมีแสงเล็กน้อยจะเป็นภาพสี ถ้ามืดสนิทจะเป็นภาพขาวดำ Human Tacking ตรวจจับ และติดตามผู้บุกรุก หากเข้ามาในบริเวณเฝ้าระวัง หมดปัญหากล้องไม่กลับที่เดิม ตั้งค่าจุดเริ่มต้นใหม่ได้เอง Human & Vehicle Detection สามารถแยกการเคลื่อนไหวของมนุษย์ กับรถยนต์ได้
IMILAB EC5
เป็นกล้องที่สามารถตรวจจับ และติดตามการเคลื่อนไหวของมนุษย์แบบ 360° กล้องหมุนแนวนอนได้ถึง 350° และแนวตั้งได้ถึง 100° ให้ความคมชัดถึง 3MP 2K Crystal Clear คมชัด สีตรง รายละเอียดครบ มาพร้อมกับ WDR / HDR ช่วยให้ภาพสว่างมากยิ่งขึ้น Color Night Vision ทำงานทันทีเมื่อแสงรอบข้างมืดลง เสียงเตือน พร้อมไฟสว่าง ไล่โจรทันทีเมื่อตรวจพบ ด้วยเสียงที่มีความดังถึง 100dB
ไฟสามารถปรับให้สว่างตลอด หรือปรับการใช้งานได้ Area Detection วางพื้นที่การตรวจจับ เข้าปุ๊บ เตือนปั๊บ แจ้งเตือนเร็วทันใจ ไปยังมือถือที่เชื่อมต่อกับกล้องโดยทันที สามารถใส่ Micro-SD Card ได้สูงสุดถึง 256GB (Fat32) ใช้ Cloud Storage บันทึกเมื่อจับเคลื่อนไหวได้เท่านั้น (ฟรี 3เดือน) เปลี่ยนกล้องเป็น Wi-Fi Hotspot ง่าย เพียงปรับในแอปฯ
IMILAB EC3 Lite
ตัวสุดท้ายที่อยากจะแนะนำเป็นกล้องภายนอกที่ราคาไม่แพงอีกหนึ่งตัว ด้วยความละเอียด 2K Crystal Clear คมชัด สีตรง เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน มาพร้อม WDR เก็บรายละเอียดในจังหวะย้อนแสง / แสงน้อยได้ดีมากขึ้นฉลาดมากขึ้นด้วย Ai ตรวจจับการเคลื่อนไหว และตรวจจับมนุษย์ Ai Area Detection เสริมการทำงานของระบบป้องกันผู้บุกรุก ปลอดภัยมากขึ้นด้วย
ระบบไล่โจร Smart Ai Siren & Spotlights ใช้เสียงในการไล่โจร และไฟส่องสว่าง ช่วยให้ภาพคมชัดมากขึ้น Color Night Vision ทำงานทันทีเมื่อแสงรอบข้างมืดลงหากมีแสงเล็กน้อยจะเป็นภาพสี ถ้ามืดสนิทจะเป็นภาพขาวดำ Two way audio รองรับการสนทนาได้แบบ 2 ทาง
กล้องวงปิดภายนอกไร้สาย
IMILAB EC4
ตัวกล้องมีความคมชัด 4MP 2.5K ภาพไม่แตกแม้จะ Crop ภาพ 100% รูรับแสงกว้างถึง F1.6 ทำงานได้ดีแม้ในสภาวะแสงน้อย มุมมองภาพกว้าง 150° รายละเอียดขอบภาพครบถ้วน Color Night Vision โหมดกลางคืน คมชัด สีสันครบ ตรวจจับมนุษย์, ตรวจจับการเคลื่อนไหว แม่นยำ รวดเร็ว แบตเตอรี่ 5200mAh ชาร์จ 1 ครั้งใช้ได้นาน 100 วัน
ทนทานทุกสภาพอากาศ กันน้ำ กันฝุ่นระดับ IP66 Two Way Audio มีไมค์ และลำโพงสนทนาผ่านกล้องได้ รองรับ W-Fi 2.4GHz สามารถสั่งงานผ่าน Amazon Alexa และ Google Assistant สามารถ MicroSD Card 256GB รองรับการใช้งานร่วมกับแผงโซล่าเซลล์ (โดยซื้อแยก)
IMILAB C22
เป็นกล้องที่มีความคมชัดถึง 3K เก็บรายละเอียดภาพได้ครบ แม้จะซูมขยายภาพเหตุการณ์ เป็นครั้งแรกกับ Wi-Fi 6 ที่อยู่ในกล้องวงจรปิดภายในบ้าน สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วขึ้นถึง 30% หมุนซ้ายขวา 360° และหมุนขึ้นลง 115° ครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่า อัพเกรด AI ตรวจจับการเคลื่อนไหว , ตรวจจับ และติดตามมนุษย์
ระบบตรวจจับเสียงผิดปกติ แก้วแตก, กระจกแตก และเสียงเด็กร้อง Two Way Audio มีไมค์ และลำโพงสนทนาผ่านกล้องได้ โหมดส่วนตัว ปิดการบันทึกภาพเพื่อเพิ่มความส่วนตัว เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน Mi Home ใช้งานง่าย และเสถียรกว่า สามารถติดตั้งกล้องแบบกลับหัว (ติดตั้งบนเพดาน)
IMILAB C21
เป็นตัวรองลงมาที่ราคาไม่แพง 1 แบงค์เทามีทอน 1 บาท ให้ความคมชัด 4MP 2.5K ภาพไม่แตกแม้จะ Crop ภาพ 100% Color Night Vision โหมดกลางคืน คมชัด สีสันครบ ตรวจจับการเคลื่อนไหว , ตรวจจับ และติดตามมนุษย์ ระบบตรวจจับเสียงผิดปกติ แก้วแตก, กระจกแตก และอื่นๆ เมื่อกล้องตรวจพบจะแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ทันที
บันทึกภาพได้ทั้ง Micro-SD Card และ Cloud Storage Micro-SD Card ได้สูงสุดถึง 256GB (Fat32) Cloud Storage บันทึกเมื่อจับเคลื่อนไหวได้เท่านั้น (ฟรี 3เดือน) รูรับแสงกว้างถึง F2.0 ทำงานได้ดีแม้ในสภาวะแสงน้อยมุมมองภาพกว้าง 105° รายละเอียดขอบภาพครบถ้วน กล้องหมุนซ้ายขวาได้ 360° และหมุนขึ้นลงได้ 110° Two Way Audio มีไมค์ และลำโพงสนทนาผ่านกล้องได้
สรุป
การเลือกซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิดเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินและคนที่คุณรัก การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของกล้องวงจรปิดและปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้คุณเลือกซื้อกล้องวงจรปิดที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้มากที่สุด